อาคารควรค่าแก่การอนุรักษ์

อาคารศรีวิทยุโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม

อาคารศรีวิทยุโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม

 ที่ตั้ง ถนนอุตรกิจ ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

 ผู้ครอบครอง โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม

 ปีที่สร้าง พ.ศ. 2470

 ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2553

 ประวัติ

 โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ก่อตั้งโดยคณะมิชชันนารีชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2431 หลังจากได้รับมอบที่ดินริมฝั่งแม่น้ำกกเปิดการเรียนการสอนครั้งแรกเป็นภาษาพื้นเมืองและภาษาอังกฤษ ต่อมาในปี พ.ศ.2450 ได้ย้ายโรงเรียนไปตั้งอยู่บริเวณโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คในปัจจุบัน หลังจากนั้นจึงย้ายมาตั้งอยู่บนถนนอุตรกิจซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนปัจจุบัน ชื่อของโรงเรียนในขณะ คือ BOY’S SCHOOL เนื่องจากในสมัยก่อนคนไทยยังไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ โดยมีอาคารหลังแรก คือ ตึกดำ เหตุที่เรียกว่า ตึกดำ เพราะได้ใช้น้ำมันดินสีดำทาทั่วตัวตึก มีนักเรียนรุ่นแรกเป็นผู้ใหญ่ 8 คน เด็ก 16 คน ต่อมาในปี พ.ศ.2457 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนบริกส์อนุสรณ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ นายแพทย์วิลเลียม เอบริกส์ ผู้มีส่วนผลักดันให้กิจการของโรงเรียนเจริญขึ้น

 ในปี พ.ศ. 2470 มีการก่อสร้างอาคารเรียน 2 ชั้น มีชื่อว่า อาคารแบคแทลล์ หลังจากนั้นใน ปี พ.ศ. 2477 โรงเรียนบริกส์อนุสรณ์ได้รวมเข้ากับโรงเรียนสตรีวิชาคาร ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงที่คณะมิชชันนารีตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ แล้วใช้ชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนคริสเตียนวิทยาคม ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยกทัพเข้าประเทศไทย แล้วบังคับให้คริสเตียนยุติกิจกรรมทุกอย่าง แต่ทางราชการยังเห็นคุณประโยชน์ของโรงเรียนจึงได้โอนกิจการของโรงเรียนไปอยู่ในความควบคุมดูแลของรัฐบาล ในปี พ.ศ. 2485 โดยแต่งตั้งให้ศึกษาธิการจังหวัดคุณวิสิษฐ์ เรืองอัมพร เป็นเจ้าของและผู้จัดการและเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม หลังจากนั้นคณะมิชชันนารีได้สลายตัวจากประเทศไทย กิจการของโรงเรียนเชียงรายวิทยาคมโอนขึ้นกับมูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทย และได้บริหารจัดการโรงเรียนมาจนถึงปัจจุบัน

 อาคารศรีวิทยา หรือ อาคารแบคแทลล์ สร้างขึ้นโดยการช่วยเหลือจากคณะอเมริกันเพรสไบทีเรียนมิชชั่นในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีศาสนฑูต เรย์ ดับบลิว แบคแทลล์ เป็นผู้ดำเนินการสร้าง อาคารแบคแทลล์เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ผังพื้นอาคารเป็นรูปตัวเอช (H) ด้านหน้าอาคารชั้นล่างมีมุขทางเข้า เหนือมุขทางเข้าเป็นระเบียง ชั้นบนของอาคารมีระเบียงด้านหน้ายาวถึงกันโดยตลอด หลังคาอาคารเป็นหลังคาปั้นหยาผสมหลังคาจั่ว ตรงกลางหลังคายกขึ้นไปเป็นหลังคาจั่วอีกชั้นหนึ่ง มีช่องลมบานเกล็ดไม้ยาวตลอดแนวหลังคาจั่ว หลังคาทั้งหมดมุงด้วยกระเบื้องลอนคู่

 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาคารศรีวิทยาได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ในสภาพดี ปัจจุบัน อาคารหลังนี้ใช้เป็นห้องเรียนศูนย์คอมพิวเตอร์ ห้องศาสนกิจ ห้องศูนย์งานวิชาการ ห้องงานกิจการนักเรียน ห้องพักผู้อำนวยการ และห้องพักผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน

 

 Chiang Rai Wittayakom School

 Location Uttrakij Road, Tambon Wiang, Amphoe Mueang, Chaing Rai Province

 Proprietor Chaing Rai Wittayakom School

 Date of Construction 1927

 Conservation Awarded 2010

 History

 The establishment of Chiang Rai Wittayakom School began in 1888 by an American missionary, after obtaining the land near the bank of the Kok River. At that time, the school was named BOY’S SCHOOL as in the past girls were not allowed to study. The first building was Tuk Dam (black building ) due to its black tar painting. In 1914, its name was changed to Briggs Anusorn School in commemoration of Dr. William A. Briggs, who helped drive the growth of the school. Later in year 1934, it was merged with a girl’s school which had been found by a missionary and was renamed as Christian Wittayakom School. During World War II the Japanese army marched troops into Thailand and forced Christians to terminate all activities, the school therefore was transferred to government control in 1942 and it was renamed to Chiang Rai Wittayakom School. Today the school is operated by the Foundation of the Church of Christ in Thailand.

 Sriwittaya Building or Black Tar Building is a 2 storey of ferro concrete work with H plan and a veranda in the front entrance of the ground floor and the open porch in the upper floor. There are double layered carved tiles roofs which have hipped and gabled styles. The gable above is made of wood with a wooden louvers outlet.

 Until now, the building has been well renovated and repaired and used as computer learning center, religious activities room, academic center, administration room and director office.